การใช้งานระบบกล้องวงจรปิด (CCTV) เพื่อให้เข้ากับกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะตามพ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ที่กำหนดเกี่ยวกับการรักษาความเป็นส่วนตัวของข้อมูลส่วนบุคคล
PDPA คืออะไร ?
PDPA หมายถึง “พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล” ซึ่งเป็นกฎหมายที่กำหนดเกี่ยวกับการรักษาความเป็นส่วนตัวและคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในประเทศไทย พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลถูกออกตามรัฐธรรมนูญประชาธิปไตย และได้รับการพิจารณาและลงนามเป็นกฎหมายในวันที่ 27 พฤษภาคม 2562 และเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันที่ 28 พฤษภาคม 2562.
พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้รับการสร้างขึ้นเพื่อปกป้องสิทธิของบุคคลในการควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลของตน และกำหนดข้อกำหนดเกี่ยวกับการเก็บรักษา ใช้ และเผยแพร่ข้อมูลส่วนบุคคลในลักษณะที่เป็นความเป็นส่วนตัวและปลอดภัย
พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลมีบทบัญญัติหลักๆ คือ :

1.สิทธิของเจ้าของข้อมูล :
บุคคลที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิ์ในการเข้าถึงข้อมูลของตน และสามารถขอให้ผู้ควบคุมข้อมูลดำเนินการตามคำร้องขอเพื่อการเข้าถึงและตรวจสอบข้อมูล
2.การรับรองความเป็นส่วนตัว :
ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลต้องรับรองว่าการจัดเก็บและประมวลผลข้อมูลนั้นได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลและต้องปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว
3.การแจ้งข้อมูล :
ผู้ควบคุมข้อมูลต้องแจ้งให้เจ้าของข้อมูลทราบถึงวัตถุประสงค์และการเก็บรักษาข้อมูล รวมถึงข้อกำหนดเกี่ยวกับการเผยแพร่ข้อมูล
4.การจัดการข้อมูลส่วนบุคคล :
ผู้ควบคุมข้อมูลต้องดำเนินการให้มีมาตรการป้องกันความเสี่ยงต่อการสูญหาย การเข้าถึงข้อมูลโดยไม่มีสิทธิ์ หรือการใช้ข้อมูลอย่างไม่ถูกต้อง

5.การแก้ไขและลบข้อมูล :
เจ้าของข้อมูลมีสิทธิ์ในการขอให้ผู้ควบคุมข้อมูลแก้ไขหรือลบข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่ถูกต้อง ไม่ครบถ้วน หรือไม่จำเป็นต่อการใช้งาน
6.การย้ายข้อมูล:
เจ้าของข้อมูลมีสิทธิ์ในการขอให้ผู้ควบคุมข้อมูลย้ายข้อมูลไปยังผู้ควบคุมข้อมูลอื่น หรือขอให้ส่งข้อมูลกลับมา
7.การป้องกันความเสี่ยง:
ผู้ควบคุมข้อมูลต้องดำเนินการเพื่อป้องกันความเสี่ยงต่อการสูญหาย การเข้าถึงข้อมูลโดยไม่มีสิทธิ์ การใช้ข้อมูลอย่างไม่ถูกต้อง และความเสี่ยงอื่นๆ
ดังนั้น เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายและปกป้องสิทธิของบุคคลในการควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
ขอแนะนำเรื่องการใช้งานระบบ CCTV ในรูปแบบที่ไม่ผิดพ.ร.บ.ดังนี้
1.การขอความยินยอม :
การติดตั้งกล้องวงจรปิดในที่ต่าง ๆ ควรขอความยินยอมจากบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หรือบุคคลที่เกี่ยวข้องกับพื้นที่หรือสถานที่ที่จะถูกบันทึกภาพ
2.การประกาศให้ทราบ :
แต่ละสถานที่ที่มีการติดตั้งกล้องวงจรปิดควรมีป้ายประกาศให้ทราบถึงการใช้งานระบบ CCTV และจุดประสงค์ในการใช้งาน.
3.การรักษาความลับ :
ควรรักษาความลับของข้อมูลที่ได้รับจากการใช้งานระบบ CCTV และไม่เผยแพร่หรือนำข้อมูลไปใช้ในทางที่ไม่เกี่ยวข้อง
4.การจำกัดการเข้าถึง :
ควรจำกัดการเข้าถึงข้อมูลจากระบบ CCTV ให้เฉพาะบุคคลที่มีความจำเป็นเท่านั้น เช่น เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง

5.การเก็บรักษาข้อมูล :
ควรจำกัดระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลจากระบบ CCTV ให้เป็นไปตามความจำเป็น และไม่นำข้อมูลไปใช้เมื่อไม่จำเป็นแล้ว
6.การปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล :
หากมีคำสั่งจากเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลให้ทำการปฏิบัติตามคำสั่งเพื่อปกป้องสิทธิของบุคคลในการควบคุมข้อมูล
7.การตรวจสอบความปลอดภัย :
ตรวจสอบและให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของข้อมูลที่เก็บไว้ในระบบ CCTV เพื่อป้องกันการเข้าถึงโดยบุคคลที่ไม่มีสิทธิ
8.การดำเนินการเมื่อเกิดการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล :
หากเกิดการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับระบบ CCTV ควรดำเนินการตามขั้นตอนที่กำหนดโดยกฎหมาย เช่น การรายงานเหตุการณ์และการแก้ไขปัญหา
การใช้งานระบบกล้องวงจรปิดต้องเป็นไปตามหลักการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้บุคคลที่เกี่ยวข้องมีความมั่นใจในการควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลของตนในสถานที่ที่ติดตั้งกล้องวงจรปิดนั้น ๆ และเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายอย่างถูกต้องและเป็นธรรม
หากอยากดูรุ่นของกล้องสามารถเข้าดูได้ที่ : https://108oa.co.th/product-category/products/cctv/
หากยังไม่แน่ใจว่าเอ๊ะรุ่นไหนกันนะที่เหมาะสมกับเราก็สามารถทักทายเข้ามาที่ เฟสบุคซ์ ของเราได้เลยทีมงานใจดีแนะนำให้ได้ หรือหากท่านต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ 02-410-4488