Wi-Fi 7 คืออะไร ดีกว่าอย่างไร

WiFi 7 เป็นมาตรฐาน WiFi รุ่นต่อไปที่เปิดตัว โดยมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า IEEE 802.11be — extremely high throughput (EHT) นอกเหนือจาก Wi-Fi 7 จะนำพื้นฐานของ Wi-Fi รุ่นก่อนหน้ามารวมไว้แล้ว ยังมีการปรับปรุงที่สำคัญหลายประการที่จะช่วยเพิ่มความเร็ว ประสิทธิภาพ และความสามารถของเครือข่าย Wi-Fi

คุณสมบัติที่สำคัญของ Wi-Fi 7 ได้แก่ :

• ช่องสัญญาณ 320 MHz : Wi-Fi 7 รองรับช่องสัญญาณกว้าง 320 MHz ซึ่งมากกว่า Wi-Fi 6 ที่ 160 MHz ช่องสัญญาณที่กว้างขึ้นหมายความว่าสามารถส่งข้อมูลได้มากขึ้นในแต่ละครั้ง ซึ่งจะช่วยเพิ่มความเร็วของเครือข่าย
• Multi-Link Operation (MLO) : MLO ช่วยให้อุปกรณ์สามารถเชื่อมต่อกับ AP หลายตัวพร้อมกัน สิ่งนี้สามารถช่วยปรับปรุงความเร็วและประสิทธิภาพของเครือข่ายโดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาพแวดล้อมที่มีความหนาแน่นสูง
• Orthogonal Frequency-Division Multiple Access (OFDMA) : OFDMA ช่วยให้ AP สามารถส่งข้อมูลไปยังอุปกรณ์หลายเครื่องพร้อมกัน สิ่งนี้สามารถช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพของเครือข่ายโดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาพแวดล้อมที่มีอุปกรณ์จำนวนมาก
• Target Wake Time (TWT) : TWT ช่วยให้อุปกรณ์สามารถแจ้ง AP เมื่อต้องการตื่นจากการนอนหลับ สิ่งนี้สามารถช่วยประหยัดพลังงานของอุปกรณ์และยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่

ประโยชน์ของ Wi-Fi 7 ได้แก่ :

• การสตรีมวิดีโอความละเอียดสูงที่ราบรื่นยิ่งขึ้น
• การดาวน์โหลดและอัปโหลดไฟล์ที่รวดเร็วยิ่งขึ้น
• การเชื่อมต่อที่เชื่อถือได้มากขึ้น
• การประหยัดพลังงานดีขึ้น

ข้อแตกต่างระหว่าง Wi-Fi 7 และ Wi-Fi 6

เป็นมาตรฐาน Wi-Fi รุ่นล่าสุดสองรุ่นที่พัฒนาขึ้นเพื่อปรับปรุงความเร็ว ประสิทธิภาพ และความสามารถของเครือข่าย Wi-Fi ทั้งสองมาตรฐานมีพื้นฐานร่วมกัน แต่ก็มีความแตกต่างที่สำคัญบางประการ

ความเร็ว

Wi-Fi 7 เร็วกว่า Wi-Fi 6 มากถึง 2.4 เท่า โดยมีความเร็วสูงสุดตามทฤษฎีที่ 46 Gbps เทียบกับ 9.6 Gbps ของ Wi-Fi 6 ความเร็วที่เพิ่มขึ้นนี้เกิดจากความกว้างช่องสัญญาณที่กว้างขึ้น (320 MHz เทียบกับ 160 MHz) และการใช้เทคโนโลยีใหม่ เช่น MLO

ประสิทธิภาพ

Wi-Fi 7 มีประสิทธิภาพดีกว่า Wi-Fi 6 ในการรองรับอุปกรณ์จำนวนมากในสภาพแวดล้อมที่มีความหนาแน่นสูง สิ่งนี้เกิดจากคุณสมบัติใหม่ เช่น MLO และ OFDMA ซึ่งช่วยให้ AP สามารถส่งข้อมูลไปยังอุปกรณ์หลายเครื่องพร้อมกัน

ความน่าเชื่อถือ

Wi-Fi 7 เชื่อถือได้มากกว่า Wi-Fi 6 ในการรับส่งข้อมูลในระยะไกล สิ่งนี้เกิดจากการใช้เทคโนโลยีใหม่ เช่น TWT ซึ่งช่วยให้อุปกรณ์สามารถแจ้ง AP เมื่อต้องการตื่นจากการนอนหลับ

การประหยัดพลังงาน

Wi-Fi 7 ประหยัดพลังงานได้ดีกว่า Wi-Fi 6 สิ่งนี้เกิดจากการใช้เทคโนโลยีใหม่ เช่น TWT ซึ่งช่วยให้อุปกรณ์สามารถนอนหลับได้นานขึ้น

ตารางเปรียบเทียบ Wi-Fi 7 และ Wi-Fi 6

ผู้ที่จำเป็นต้องใช้ Wi-Fi 7 ได้แก่ :

• ผู้ที่ต้องการประสบการณ์การสตรีมวิดีโอความละเอียดสูงที่ราบรื่น Wi-Fi 7 ช่วยให้สามารถสตรีมวิดีโอความละเอียดสูง 4K/8K ได้อย่างราบรื่นโดยไม่กระตุกหรือสะดุด
• ผู้ที่เล่นเกมออนไลน์ที่ต้องการความได้เปรียบในการแข่งขัน Wi-Fi 7 ช่วยลดค่าแฝง (latency) ทำให้การเล่นเกมออนไลน์มีความลื่นไหลและตอบสนองได้ดีขึ้น
• ผู้ที่ทำงานร่วมกันจากระยะไกลที่ต้องการประสิทธิภาพการทำงานสูงสุด Wi-Fi 7 สามารถรองรับการทำงานร่วมกันจากระยะไกลได้อย่างมีประสิทธิภาพและราบรื่น

นอกจากนี้ ผู้ที่ทำงานในอุตสาหกรรมต่างๆ ต่อไปนี้ก็อาจจำเป็นต้องใช้ Wi-Fi 7 ได้แก่:

• อุตสาหกรรมการผลิต Wi-Fi 7 สามารถรองรับการใช้งานเครื่องจักรและอุปกรณ์อัตโนมัติในโรงงานอุตสาหกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
• อุตสาหกรรมการแพทย์ Wi-Fi 7 สามารถรองรับการใช้งานอุปกรณ์ทางการแพทย์ เช่น หุ่นยนต์ผ่าตัด และระบบรักษาพยาบาลจากระยะไกล
• อุตสาหกรรมบันเทิง Wi-Fi 7 สามารถรองรับการใช้งานระบบความเป็นจริงเสมือน (VR) และความเป็นจริงเสริม (AR)

อย่างไรก็ตาม อุปกรณ์ Wi-Fi 7 ยังไม่วางจำหน่ายในท้องตลาดและคาดว่าจะวางจำหน่ายในปี 2024 ดังนั้น ผู้ที่จำเป็นต้องใช้ Wi-Fi 7 อาจต้องรอสักระยะหนึ่ง

หากสนใจอุปกรณ์ทางไอที หรือเช่าอุปกรณ์ทางไอที 108oa เป็นอีกที่ พร้อมจะบริการให้คุณถึงที่ สามารถเข้าดูได้ที่เว็บ https://108oa.co.th/

หากยังไม่แน่ใจว่าเอ๊ะรุ่นไหนกันนะที่เหมาะสมกับเราก็สามารถทักทายเข้ามาที่ เฟสบุคซ์ ของเราได้เลยทีมงานใจดีแนะนำให้ได้ หรือหากท่านต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ 02-410-4488